ฟิคสั้น [MinHoonWoo] คนข้างกาย - ฟิคสั้น [MinHoonWoo] คนข้างกาย นิยาย ฟิคสั้น [MinHoonWoo] คนข้างกาย : Dek-D.com - Writer

    ฟิคสั้น [MinHoonWoo] คนข้างกาย

    ฟิคสั้นของ #HoonWoo มีมิโนด้วยนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    672

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    672

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    8
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ก.ย. 57 / 09:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    ฟิคสั้น คนข้างกาย

     

     

    “อ้วนก็แบบนี้ตลอด อารมณ์ค้างรึงัย ชอบทำหน้าบึ้งใส่”

     

     

    “แล้วบี๋เป็นไง ก็ชอบทำให้อารมณ์เสีย”

     

     

    “แล้วอ้วนไม่ดูตัวเองบ้าง ชอบเอาแต่ใจเหมือนกัน พอเหอะ ไม่อยากทะเลาะด้วย”

     

     

    ร่างเล็กตะเบ็งเสียงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะโยนบางอย่างให้กับคนที่กำลังคุยด้วยแล้วหันหลังจากมา ผมรีบพาตัวเข้าข้างซอกประตูที่กำลังเหวี่ยงตัวออกมาจากแรงผลักของมือเล็ก เนื่องจากไม่อยากให้สองคนที่อยู่ในห้องแต่งตัวรู้ว่าผมมาได้ยินบทสนทนาที่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวของพวกเขาเข้า

     

     

    ผมมองแผ่นหลังของคนที่เดินหน้างอออกไปก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่เพื่อนสนิทคนหนึ่งในวงยืนอยู่ ซงมินโฮหันมามองอย่างรวดเร็วคงเพราะนึกว่าผมเป็นคนที่เพิ่งเดินจากเขาไป แต่พอรู้ว่าเป็นผม เขาก็ทำหน้าเซ็งๆและเมินมองไปทางอื่น

     

     

    “เข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยไอ้ตี๋”

     

     

    “จำเป็นด้วยเหรอวะ ห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของมึงหรือไง” ผมเหลือบไปมองร่างสูงทัดเทียมกับผมที่ยืนจัดแจงแต่งเนื้อแต่งตัวอย่างกวนๆ ก่อนจะหยิบเสื้อแขนยาวสีเขียวเท่ห์ๆมาสวมทับเสื้อยืดตัวข้างใน วันนี้วงเรามาออกรายการวิทยุกันครับ แม้แฟนๆหรือคนทั่วไปจะมองว่าพวกผมคงเจนเวทีกันแล้ว แต่สำหรับพวกผม ทุกครั้งที่ออกงานหรือรายการอะไร ความตื่นเต้นก็จะมีมากมายเสมอ

     

     

    “ก็เปล่า แค่ไม่นึกว่าเป็นมึง”

     

     

    “แล้วนึกว่าเป็นใคร จินอูฮยองงั้นเหรอ?” ผมถามกลับทันที ตอนนี้ในใจพุ่งพล่านไปด้วยคำถามมากมายเกี่ยวกับเรื่องราวของคนสองคน เพราะเมื่อคืนได้ยินซึงยูนบอกว่าพี่จินอูไปที่ห้องมิโน แต่จู่ๆก็กลับมากลางดึก แถมยังนั่งเขียนไดอารี่ทั้งคืนไม่ยอมนอน วันนี้เขาเลยดูเพลียและค่อนข้างเบลอ

     

     

    “.................”

     

     

    มิโนมองหน้าผม ไม่ได้พูดอะไรต่อ สีหน้าเพื่อนร่วมวงดูกังวลนิดหน่อย แต่เขาก็รีบเปลี่ยนแปลงมันเป็นรอยยิ้มน้อยๆได้ทัน เขาหยิบผ้าพันคอผืนบางเป็นชิ้นสุดท้าย ก่อนจะเดินมาตบไหล่ผมเบาๆ แล้วเดินผ่านไปยังประตู

     

     

    “รีบแต่งตัวล่ะ ทุกคนรออยู่ข้างนอก”

     

     

    การกระทำของเขา ไม่ได้ให้รายละเอียดอันใดกับผม แต่มันก็ดูมีอะไรมากพอที่ทำให้ผมตีความได้เองว่า สองคนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ “ไม่ธรรมดา”

     

     

    ความจริงแล้วเรื่องของพี่จินอูและมิโนทุกคนในวงก็รู้กันอยู่แล้วล่ะ เพียงแต่เราเลือกที่จะไม่พูดออกมามากกว่า แฟนๆเองรู้กันดีถึงความสัมพันธ์ที่ดูจะชัดเจนและเปิดเผยอย่างมากของมิโน เขาค่อนข้างใส่ใจและเป็นห่วงเป็นใยพี่ใหญ่คนนี้เอามากๆ บ่อยครั้งที่เคยเผลอทำเหมือนหึงหวงเกินกว่าเหตุ ในยามที่สมาชิกในวงเล่นถึงเนื้อถึงตัวกับพี่จินอูมากเกินไป

     

     

    แน่นอนว่าผมรู้ ...เพราะผมเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกที่ห่วงใย อยากดูแลใส่ใจพี่จินอูให้เทียบเท่ากับที่มิโนทำเหมือนกัน

     

     

    เพียงแต่ไม่มีแม้โอกาส....

     

     

    “ฮยองเป็นอะไรหรือเปล่า เห็นซึมๆตั้งแต่เช้า ไม่สบายเหรอครับ”

     

     

    ผมเดินไปแตะไหล่เล็กที่ตอนนี้ยืนหันหลังให้ผมอยู่ พี่จินอูสบตาผมผ่านกระจกบานใหญ่ที่ติดในเคานท์เตอร์ห้องน้ำชาย หลังจากเดินตามมิโนออกมาผมก็ตามหาพี่จินอูซะทั่ว มาหลบอยู่ที่นี่นี่เอง ให้เดินหาซะทั่วสตูฯไปหมด ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่ก็จะเริ่มรายการแล้ว

     

     

    เมื่อได้ยินเสียงเรียก ร่างเล็กก็ค่อยๆหันมาหา พร้อมรอยยิ้มบางๆที่เคยเห็นจนชินตา “เปล่านี่นา พี่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

     

     

    “แล้วทำไมตาแดง? ฮยอง!

     

     

    หางเสียงของผมแทบจะกลายเป็นตวาดเมื่อสังเกตเห็นดวงตากลมโตนั้นคลอไปด้วยน้ำใส ผมขบกรามแน่น เมื่อคนตัวเล็กยังคงส่ายหน้าไม่ยอมพูดอะไรออกมา

     

     

    “ฮยอง เป็นอะไร ใครทำอะไรให้ อย่าบอกนะว่า...”

     

     

    “ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะฮุน มิโนไม่ได้ทำอะไร...”

     

     

    ยังไม่ทันได้จับผิด คนใสซื่อก็คายความจริงออกมาด้วยตัวเอง ผมซ่อนความคับข้องไว้ในใจ ระบายออกมาเพียงแค่รอยยิ้มรับขวัญ ขณะที่ดึงร่างบางเข้ามาหา

     

     

    แม้ในใจจะครั้นคร้ามไปด้วยความขุ่นโกรธ แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่ผมจะทำได้ก็คือปลอบใจ...

     

     

    รู้ว่ามันไม่ใช่วิธีผ่อนปรนความโกรธของผมลงได้ แต่อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้เจ้าของความรู้สึกทั้งหมดของผม อุ่นใจขึ้นมา เมื่อได้ฟังคำพูดและอยู่ในอ้อมกอดของผม

     

     

    “ผมเชื่อ... เพราะตราบใดที่ฮยองอยู่ใกล้ๆผม จะไม่มีใครทำร้ายฮยองได้”

     

     

    “ขอบใจนะฮุน ขอบใจมากๆ พี่ดีขึ้นแล้วจริงๆ”

     

     

    วงแขนของคนที่ผมกอดรัดไม่ได้ตอบสนองผมอย่างที่อยากให้เป็น และเมื่อจำต้องผละออกจากร่างอุ่น หัวใจของผมก็คล้ายโดนกระชากออกจากร่างกาย

     

     

    “งั้น... เราออกไปหาทุกคนกันเถอะ”

     

     

    ถึงจะอยากพูดอะไรมากกว่านั้น ก็คงไม่มีโอกาสแล้ว

     

     

    ช่างเถอะ....

     

     

     

     

     

    ในห้องอัด ตำแหน่งที่ผมนั่งก็คือท่ามกลางพี่จินอูและมิโน ก่อนหน้านั้นเราเคยคุยกันว่าแทฮยอนจะต้องนั่งกับซึงยูนและผม ส่วนมิโนกับพี่จินอูจะนั่งด้วยกัน แต่วันนี้ ตำแหน่งกลับโดนสลับ โดยพี่จินอูเป็นคนเลือก!

     

     

    ผมมองคนตัวเล็กที่นั่งข้างกายและดูยิ้มแย้มแจ่มใสจากเมื่อ 30 นาทีก่อนหน้านี้ขณะที่กำลังคุยอะไรบางอย่างกับดีเจสาวสวยผู้ดำเนินรายการ กลิ่นแอลกอฮอลอ่อนๆจากร่างเล็กทำให้ผมค่อนข้างกังวลใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา

     

     

    ดวงตากลมโตฉ่ำเยิ้มมากกว่าปกติ แถมยังชอบเมียงมองมาทางผมอย่างเปิดเผย คล้ายกับต้องการยั่วยวนปั่นหัวใครบางคนให้เป็นบ้า

     

     

    แต่นั่นแหละ ....ผลพลอยได้และพลอยเจ็บมันก็ตกอยู่ที่ผมเช่นเคย

     

     

    พี่จินอูดูสดใสมากขึ้นขณะพูดคุยและตอบคำถาม เขายิ้มและมีท่าทีเขินอายเหมือนเด็กน้อยตอนโดนถามคำถาม รวมทั้งหัวเราะร่าเริงจนกลายเป็นคนละคนกับเมื่อช่วงก่อนหน้าที่จะเข้ามาอัดรายการ

     

     

    แต่ก็นี่แหละคือพี่จินอู

     

     

    พี่เขาสามารถทำงานได้อย่างมืออาชีพ ไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้งานส่วนรวมเสียเลยสักครั้ง เขาทำหน้าที่สมาชิกที่ดีเมื่อรวมตัวกัน ไม่มีใครต้องกังวลใจเพราะเขาเลย

     

     

    ก็มีแต่อีกคนที่เหมือนจะไม่พอใจกับสายตาฉ่ำเยิ้มที่พี่จินอูส่งมาให้ผมอย่างไม่เกรงอกเกรงใจสายตาของเขาบ้าง

     

     

    “ตอนที่ออนนี่ให้พวกเราออกไปร้องเพลง มึงสลับตำแหน่งกับกูแล้วกัน”

     

     

    มิโนกระซิบกับผมขณะที่รายการตัดเข้าช่วงพักเบรก ทุกคนกำลังใส่ใจกับการพูดคุยอย่างถึงรสถึงชาติของพี่ดีเจคนสวยจนลืมสังเกตว่าเราสองคนคุยอะไรกันที่มุมโต๊ะ

     

     

    มิโนลุกไปแตะข้อศอกพี่จินอูให้เดินตามเขาออกไปข้างนอก เกือบสิบนาทีจึงกลับเข้ามา พร้อมรอยยิ้มเขินอายของพี่จินอู รวมถึงอารมณ์ที่ดีขึ้นของมิโน

     

     

    และทั้งสองคนก็ทำหน้าที่ลงมีดกรีดหัวใจผมอีกครั้ง เมื่อผมสังเกตว่าริมฝีปากสวยสดของพี่จินอูบวมเป่งผิดไปจากเดิม

     

     

    เพลงที่ต้องร้องช่างเศร้ากว่าเดิมเมื่อถึงท่อนของผม ...และมันก็เศร้าเข้าไปอีกเมื่อเห็นการหยอกเอิน และสายตาที่กลับมามองกันและกันอย่างลึกซึ้งแบบเดิมของคนทั้งคู่

     

     

    “สีหน้าฮยองดูดีขึ้นแล้ว”

     

     

    ผมทักเมื่อกลับมานั่งประจำที่ของตัวเองซึ่งคั่นกลางระหว่างร่างสองร่างที่พยายามส่งสายตาหากัน ...สิ่งนี้แหละเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกชนะซงมินโฮ นั่นคือผมคือคน “นั่งข้าง”

     

     

    “อ๋อ จริงเหรอ”

     

     

    พี่จินอูลูบแก้มตัวเองเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นจับหูฟังอย่างที่เขาชอบทำตั้งแต่เริ่มรายการ ดวงตาฉ่ำความสุขของเขาสบกับผม และทำหน้าที่เฉือนใจผมให้ขาดเป็นริ้วๆอีกครั้ง

     

     

    ได้โปรดเถอะ ...ถ้าไม่คิดอะไรก็อย่ามองกันด้วยสายตาแบบนี้

     

     

    มันอาจทำให้คนคนหนึ่งซึ่งกำลัง “แอบรัก” ตายเอาได้ง่ายๆเลยนะครับฮยอง

     

     

    จบ.



    Talk Talk Talk:
    สวัสดี  มาแบบงงๆอ่ะ ไรท์เมากาแฟเซเว่นอ่า
    อะไร ใครนอกใจมินอู ไม่มี๊ 5555555555555
    ฟิคสั้นเนื่องจากกระแสที่บูมมากของ #hoonwoo
    ที่ยังคงความเป็น #MinWoo เอาไว้ 100% (หลบ
    เกิบชิปฮุนอู) คืออยากแต่งอ่ะ เพราะมันฟินมาก
    แต่ก็ไม่อยากนอกใจมินอู รีดเข้าใจไรท์ช้ะ ฮ่าๆๆ
    เดี๋ยวคราวหน้าโมเม้นท์มาอีกไรท์จะจัดเต็ม หึหึ
    วันนี้ลาไปก่อน จุ๊บๆๆๆๆ

    ปล. เจอกันใหม่เมื่อมีโมเม้ท์และไม่ขี้เกียจ 55555








     

     

     

     

     

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหานิยายได้ เนื่องจากเจ้าของเรื่องปิดการเข้าถึง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×